“มังคุด”ช่วยสมานแผล แก้ท้องเสีย

แพทย์แผนไทยชี้ “มังคุด” มีประโยชน์ทั้งเนื้อและเปลือก อุดมวิตามินและแร่ธาตุจำเป็น ส่วนเปลือกมีสารสำคัญช่วยสมานแผล ให้แผลหายเร็วขึ้น บรรเทาอาการท้องเสียชนิดไม่ติดเชื้อ

นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ โฆษกกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในช่วงเดือนกรกฎาคม – กันยายนของทุกปี เป็นช่วงฤดูการออกผลผลิตของมังคุด โดยมังคุดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ และได้รับยกย่องให้เป็น “ราชินีแห่งผลไม้ (Queen of fruits)” เนื่องจากผลมังคุดมีกลีบเลี้ยงที่อยู่หัวขั้วของผล ซึ่งมีลักษณะคล้ายมงกุฎของราชินี เนื้อของมังคุดมีรสชาติอร่อย รสหวานอมเปรี้ยว และมีสารสำคัญที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี1 บี2 บี3 บี6 บี9 และบี12 นอกจากนี้ ยังมีแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม เหล็ก แมงกานิส ฯลฯ ซึ่งสารเหล่านี้มีส่วนช่วยให้กลไกต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น

นพ.ปราโมทย์ กล่าวว่า เปลือกมังคุด มีรสฝาด ช่วยบรรเทาอาการท้องเสียที่เกิดจากธาตุไม่ปกติ ไม่ติดเชื้อ เช่น อุจจาระไม่มีมูกเลือดปน หรืออาการท้องเสียที่ไม่มีไข้ร่วมด้วย วิธีการนำเปลือกมังคุดมาใช้ประโยชน์เพื่อรักษาอาการท้องร่วงตามตำราการแพทย์แผนไทยและหลักการสาธารณสุขมูลฐาน มีวิธีการดังนี้ นำเปลือกผลมังคุดตากแห้งประมาณ ½ ผล (4 กรัม) ย่างไฟให้เกรียมบดเป็นผง แล้วละลายในน้ำต้มสุกประมาณครึ่งแก้ว หรือ 100 มล. ดื่มทุก 2 ชั่วโมง

“นอกจากรักษาอาการท้องเสียแล้ว เปลือกมังคุดยังช่วยสมานแผล ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น จากข้อมูลการศึกษาวิจัยพบว่า เปลือกมังคุดมีสารกลุ่มแซนโทน (Xanthone) ที่สำคัญ ได้แก่ แอลฟา – แมงโกสทิน ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ ในเปลือกมังคุดยังพบสารแทนนิน (Tannin) ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยสมานแผลด้วยการทำให้หลอดเลือดหดตัว ป้องกันการสูญเสียน้ำของแผล ซึ่งมีส่วนช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น และลดการเคลื่อนตัวของลำไส้ ทำให้สามารถบรรเทาอาการท้องเสียได้

ในปัจจุบันมีการนำเปลือกมังคุดมาสกัดและพัฒนาใช้เป็นยารักษาโรคในรูปแบบยาน้ำ เป็นยาใช้ทาภายนอก คือ ยาเปลือกมังคุด และเป็นยาสมุนไพรที่ถูกบรรจุให้เป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ มีสรรพคุณช่วยสมานแผล ทั้งแผลสดและแผลเรื้อรัง ขนาดและวิธีใช้ ทาบริเวณที่เป็นแผลวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ข้อห้ามใช้ ห้ามทาบริเวณขอบตาและเนื้อเยื่ออ่อน” นพ.ปราโมทย์ กล่าว

นพ.ปราโมทย์ กล่าวว่า เปลือกมังคุด นอกจากจะถูกนำมาใช้เป็นยารักษาโรคแล้ว ก็ยังถูกนำมาใช้ ในอุตสาหกรรมเวชสำอางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสบู่รักษาสิวจากเปลือกมังคุด ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ครีมบำรุงผิว รวมถึงผสมในเจลล้างมือ เป็นต้น ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจเป็นเม็ดเงินให้กับประเทศอย่างมหาศาล

มังคุด (Mangosteen) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Garcinia mangostana Linn. จัดเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานอร่อย และยังได้รับความนิยมมากในแถบเอเชีย จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งผลไม้” เนื่องจากลักษณะภายนอกของผลที่มีกลีบบนหัวคล้ายกับมงกุฎของพระราชินี มังคุดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มากชนิดหนึ่ง นอกจาก ส่วนเนื้อที่เรานิยมรับประทานกันแล้ว ยังมีเปลือกมังคุด ซึ่งเป็นผลผลิตเหลือทิ้งจากภาคการเกษตร ที่มีประโยชน์มากมายและมีสรรพคุณทางการแพทย์สูงในการรักษาโรคได้

ปัจจุบัน มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์จากสารสกัดจากเปลือกมังคุด พบแทนนิน (Tannin) และแซนโทน (Xanthones) ในปริมาณสูง ซึ่งมีสรรพคุณทางการรักษาและยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ โดยที่สารแทนนิน มีฤทธิ์สมานแผลช่วยให้แผลหายได้เร็วยิ่งขึ้น และสารแซนโทน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบจากการติดเชื้อ รักษาเซลล์มะเร็ง และฆ่าเชื้อก่อโรคทางเดินระบบหายใจร้ายแรงได้นอกจากสรรพคุณทางการแพทย์แล้ว ในวงการเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ยังให้ความสนใจนำเอาสารสกัดจากเปลือกมังคุดไปเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในการเป็นตัวช่วยดับกลิ่นตัว และบรรเทาอาการของโรคผิวหนัง รักษาสิวฝ้า ซึ่งก็ให้ผลดีและเป็นที่นิยมของผู้บริโภคในปัจจุบัน

แหล่งที่มาข้อมูล :
อุดมลักษณ์ สุขอัตตะ และคณะ. 2549. การสกัดและการออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ของสารสกัดจากเปลือกมังคุด. บทความวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สสส. และ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ