อย่างที่ทราบกันดีว่าโรคเบาหวานถือว่าเป็นโรคที่คนเป็นมากที่สุดอีกโรคหนึ่ง ซึ่งอาจจะมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน แต่ขณะเดียวกันโรคดังกล่าวนี้ก็มีภาวะสัญญาณเตือนออกมาก่อนนั่นคือ ภาวะเบาหวานแฝง ซึ่งหากไม่ทันตั้งตัวให้ดีก็อาจจะเป็นโรคเบาหวานในท้ายที่สุดได้

“ภาวะเบาหวานแฝง” คืออะไร

สำหรับภาวะดังกล่าวนี้ อาจจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ภาวะก่อนเบาหวาน หมายถึง ภาวะความผิดปกติของระบบควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย ทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าคนปกติ แต่ยังไม่ถึงระดับที่จะวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน มีสาเหตุเช่นเดียวกับโรคเบาหวาน ได้แก่ พันธุกรรม ภาวะอ้วน การสูบบุหรี่ เป็นต้น และหากไม่มีการแก้ไขสาเหตุดังกล่าว น้ำตาลจะสูงขึ้นจนเป็นโรคเบาหวานในที่สุด
ปัจจัยเสี่ยงของภาวะ “เบาหวานแฝง”

สามารถแบ่งออกเป็น 3 ปัจจัย ได้แก่

-ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถแก้ไขได้ เช่น อายุ เชื้อชาติ ประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน เช่น พ่อแม่ พี่น้อง

-ปัจจัยเสี่ยงที่สามารถแก้ไขได้ เช่น น้ำหนักตัวเกินหรือโรคอ้วน (ดัชนีมวลกาย > 25 กิโลกรัม/เมตร2) หรือการขาดการออกกำลังกาย

-ปัจจัยเสี่ยงร่วม เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วนลงพุง โรคถุงน้ำรังไข่ เคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือเคยคลอดบุตรน้ำหนักเกิน 4 กิโลกรัม

อาการ

-ร่างกายขาดน้ำ รู้สึกกระหายน้ำ

-รู้สึกอยากอาหาร หรือหิวบ่อย

-เหนื่อยล้า

-มองเห็นสิ่งรอบตัวเป็นภาพซ้อน พร่ามัว

-น้ำหนักเพิ่มหรือลดโดยไม่มีสาเหตุ

-ปัสสาวะบ่อย

การรักษา

สำหรับการรักษาภาวะเบาหวานแฝงที่ดีที่สุด คือ การตรวจหาตั้งแต่เนิ่น ๆ และรีบให้การรักษาด้วยวิธีการควบคุมอาหาร เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ตั้งเป้าลดน้ำหนักตัวให้ได้ร้อยละ 5-10% ร่วมกับการออกกำลังกายหรือเพิ่มกิจกรรมทางกายให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า

ส่วนการใช้ยารักษาภาวะเบาหวานแฝงนั้น แพทย์จะพิจารณาเป็นรายบุคคล ส่วนใหญ่จะพิจารณาใช้ยาในรายที่มีความเสี่ยงสูง และมีค่าระดับน้ำตาลหรือน้ำหนักตัวไม่ลดลงหลังผ่านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว

การป้องกัน “ภาวะเบาหวานแฝง”

-รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ เลือกอาหารที่มีแคลอรี่ และไขมันต่ำ เน้นผักผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี

-ตั้งเป้าหมายในการออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาที ต่อสัปดาห์

-ลดน้ำหนักส่วนเกินให้ตรงตามเกณฑ์มาตรฐาน 5-7 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนัก

-หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่

-รับประทานยาตามที่คุณหมอกำหนด ไม่ควรหาซื้อยามากินเอง เนื่องจากยังไม่ได้เป็นโรคเบาหวานอย่างสมบูรณ์ ทำให้อาจได้รับยาชนิดอื่นแทนตามอาการ

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงประกอบจาก : โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลกลาง และ hellokhunmor.com